วิธีการตรวจคัดกรอง
การตรวจคัดกรองสุขภาพเบื้องต้นช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 โรงเรียนวัดทุ่งนาไทยได้ วางแผนดำเนินการตามขั้นตอนที่สำคัญ ได้แก่ การตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายหรือวัดไข้ การซักประวัติ การสัมผัสในพื้นที่เสี่ยง การสังเกตอาการเสี่ยงต่อการติดเชื้อ โดยมีวิธีปฏิบัติที่สำคัญพอสังเขป ดังนี้
1) จัดตั้งจุดคัดกรองบริเวณทางเข้าของสถานศึกษา โรงเรียนวัดทุ่งนาไทยได้กำหนด จุดคัดกรองบุคลากร นักเรียนและผู้มาติดต่อราชการโดยยึดหลัก Social distancing ดังนี้
1.1) ครู บุคลากรโรงเรียน กำหนดให้ครูและบุคลากรเข้าสถานศึกษาโดยใช้ประตูที่ 1 (ประตูหน้า)
1.2) นักเรียน มีการกำหนดให้นักเรียนเข้าสถานศึกษาโดยใช้ประตูที่ 1 เดินตามช่องทาง และมีระยะห่างระหว่างคน 1 - 1.5 เมตร
1.3) ผู้มาติดต่อราชการ มีการกำหนดให้นักเรียนเข้าสถานศึกษาโดยใช้ประตูที่ 1
2) ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายหรือวัดไข้โดยใช้เครื่องวัดอุณหภูมิทางหน้าผาก คนทั่วไปจะมีอุณหภูมิร่างกายอยู่ระหว่าง 36.1 - 37.2 องศาเซลเซียส สำหรับผู้ที่เริ่มมีไข้หรือสงสัยว่าติดเชื้อจะมีอุณหภูมิที่มากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส
2.1) ครู บุคลากรโรงเรียน จะมีเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายบริเวณสแกน ลายนิ้วมือลงชื่อปฏิบัติราชการ โดยเน้นระยะห่างระหว่างคน 1 - 1.5 เมตร
2.2) นักเรียน ในช่วงเช้า จะมีคุณครูเวรประจำวันทำหน้าที่ต้อนรับนักเรียนและทำหน้าที่ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายแต่ละแถว โดยเน้นระยะห่างระหว่างคน 1 - 1.5 เมตร
2.3) ผู้มาติดต่อราชการ จะตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายบริเวณทางขึ้น อาคารสำนักงาน โดยเน้นระยะห่างระหว่างคน 1 - 1.5 เมตร จะต้องลงเบียนการเช็คอิน “ไทยชนะ” หรือ ลงชื่อเข้าใช้บริการ กำหนดให้สำนักงานและห้องพักครูต้องติดตั้งป้าย QR Code “ไทยชนะ” หรือสมุดลงชื่อ ไว้ที่หน้าห้องให้เรียบร้อย
*** หากตรวจวัดอุณหภูมิร่างการยครั้งแรก บุคลากร นักเรียนหรือผู้มาติดต่อราชการมีอุณหภูมิ ร่างกายมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ให้พักคอยหรือควรอยู่ในบริเวณจุดตรวจวัดอย่างน้อย 5 นาที ก่อน การวัดอีกครั้ง ***
- กรณี วัดอุณหภูมิร่างกายได้ ไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส และไม่มีอาการ ทางเดินหายใจ อาทิ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจลำบาก เหนื่อยหอบ ไม่ได้กลิ่น ไม่ รู้รส ไม่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยัน ในช่วง 14 วัน ก่อนมีอาการ ถือว่า ผ่านการคัดกรอง จะติดสัญลักษณ์หรือสติ๊กเกอร์ ให้เข้าเรียน ปฏิบัติงานหรือ ติดต่อได้ตามปกติ
- กรณี วัดอุณหภูมิร่างกาย ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป หรือมีไข้ ร่วมกับอาการ ทางเดินหายใจ อย่างใดอย่างหนึ่ง อาทิ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจลำบาก เหนื่อยหอบ ไม่ได้กลิ่น ไม่รู้รส ให้ปฏิบัติ ดังนี้ > แยกนักเรียนไปไว้ที่ห้องแยก ซึ่งทางงานอนามัยโรงเรียนได้จัดเตรียมไว้ > บันทึกรายชื่อและอาการป่วย > ซักประวัติและสังเกตอาการเสี่ยง > แจ้งผู้ปกครอง
3) สอบถามและซักประวัติการสัมผัสในพื้นที่เสี่ยงและบันทึกผล ลงในแบบบันทึกการตรวจคัดกรอง สุขภาพสำหรับนักเรียน บุคลากรหรือผู้มา ติดต่อในสถานศึกษา
3.1) หากไม่มีประวัติเสี่ยง ให้พานักเรียนไปพบแพทย์ และให้ หยุดพักจนกว่าจะหายเป็นปกติ 3.2) หากตรวจพบว่า มีประวัติเสี่ยง และ/หรือมีประวัติสัมผัส ใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันหรือสงสัย มีประวัติเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่เกิดโรค ไปในพื้นที่ที่มีคนแออัด จำนวนมาก ในช่วง 14 วันก่อนมีอาการ ถือว่า เป็นผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยง หรือเป็นกลุ่มเสี่ยง โดยจำแนกเป็น กลุ่มเสี่ยงมีประวัติเสี่ยงสูง และกลุ่มเสี่ยง มีประวัติเสี่ยงต่ำ ให้ปฏิบัติ ดังนี้
กลุ่มเสี่ยงมีประวัติเสี่ยงสูง
- แยกนักเรียนไปไว้ที่ห้องแยกซึ่งงานอนามัยโรงเรียนจัดเตรียมไว้
- บันทึกรายชื่อและอาการป่วย
- แจ้งผู้ปกครอง ให้มารับนักเรียน แล้วพาไปพบแพทย์
- แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ประเมินสถานการณ์ การสอบสวนโรค
- ทำความสะอาดจุดเสี่ยงและบริเวณโดยรอบ
- เก็บตัวอย่าง
- กักตัวอยู่บ้าน
- ติดตามอาการให้ครบ 14 วัน
- ครูรวบรวมข้อมูลและรายงานผลให้ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้เกี่ยวข้อง
กลุ่มเสี่ยงมีประวัติเสี่ยงต่ำ
- แยกนักเรียนไปไว้ที่ห้องแยกซึ่งงานอนามัยโรงเรียนจัดเตรียมไว้
- บันทึกรายชื่อและอาการป่วย
- แจ้งผู้ปกครอง ให้มารับนักเรียน แล้วพาไปพบแพทย์
- แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- แจ้งท้องถิ่นทำความสะอาด จุดเสี่ยงและบริเวณโดยรอบ
- ติดตามอาการให้ครบ 14 วัน
- ครูรวบรวมข้อมูลและรายงานผลให้ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้เกี่ยวข้อง